ขอขอบคุณ รูปภาพจาก www.dd-pra.com
ดีบุกเป็นโลหะสีขาวซึ่งมีการนำมาใช้ประโยชน์เป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากดีบุกสามารถผสมเป็นเนื้อเดียวกับทองแดงได้ดี การใช้งานในช่วงแรกจึงเป็นการผลิตโลหะผสมระหว่างดีบุกกับทองแดงหรือที่เรียกว่าโลหะสัมริด (Bronze) ซึ่งมีการใช้ค้นพบมาตั้งแต่ประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล ดีบุกจัดเป็นโลหะที่มีลักษณะเด่นคือ มีความอ่อนตัวสูง มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูง และมีคุณสมบัติด้านหล่อลื่นดี
คุณสมบัติทั่วไปของดีบุก
คุณสมบัติทางฟิสิกส์
น้ำหนักอะตอม 118.71
ระบบผลึก Tetragonal
ความหนาแน่น (ที่ 20 oC) 7.27 g.cm-3
จุดหลอมเหลว 232 oC
จุดเดือด 2,602 oC
ความต้านทานไฟฟ้า (ที่ 20 oC) 115 nΩ.m
สัมประสิทธิ์การขยายตัว (ที่ 20 oC) 22.0 µm.m-1.K-1
คุณสมบัติเชิงกล
Youngs modulus 50 GPa
Shear modulus 18 GPa
Brinell hardness 51 MPa
การใช้ประโยชน์ของโลหะดีบุก
โลหะดีบุกเป็นโลหะอ่อนจึงไม่ใช้ดีบุกในการผลิตชิ้นส่วนจักรกล แต่ด้วยคุณสมบัติเด่นที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดและสารละลายต่างๆ ทนต่อการเป็นสนิม มีความเงางาม สวยงาม และไม่ก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงนิยมใช้ในการเคลือบแผ่นเหล็กเพื่อผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม ดีบุกเมื่อรีดเป็นแผ่นบางๆ สามารถนำไปใช้ห่อสิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันความชื้นได้ดี นอกจากนี้โลหะดีบุกยังมีคุณสมบัติในการผสมเป็นเนื้อเดียวกับโลหะอื่นได้ดี จึงสามารถผลิตเป็นโลหะดีบุกผสมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่น โลหะดีบุกผสมตะกั่ว พลวง หรือสังกะสี ที่ใช้ในการผลิตโลหะบัดกรีสำหรับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ โลหะดีบุกผสมตะกั่วเพื่อใช้ผลิตหม้อน้ำรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ โลหะดีบุกผสมทองแดงที่ใช้ในการผลิตทองสัมฤทธิ์เพื่อทำระฆังและศิลปะวัตถุต่างๆ โลหะดีบุกผสมเงิน ทองแดง และปรอท ใช้สำหรับอุดฟันและงานทันตกรรม นอกจากนี้ยังใช้ทำโลหะดีบุกผสมทองแดงและพลวงหรือที่เรียกว่า พิวเตอร์ (Pewter) ซึ่งนิยมนำไปผลิตเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับตกแต่ง ของที่ระลึก ตลอดจนการชุบเคลือบต่างๆ อีกด้วย โลหะดีบุกที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ทำเป็นโลหะแบริ่งมีชื่อว่า Babbit เป็นโลหะที่ประกอบด้วยดีบุก พลวง ทองแดง และอาจมีตะกั่วผสมอีกเล็กน้อย โลหะผสมชนิดนี้มีโครงสร้างพื้นฐานที่อ่อนและมีสัมประสิทธิ์ความฝืดต่ำทำให้เหมาะที่จะใช้เป็นโลหะแบริ่ง
ขอขอบคุณ เนื้อหาจาก http://lc.dpim.go.th/